เมนู

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ไอ ย่ะ  เลี้ยงไก่ให้โต แล้วเอามาจิ๊ก กัน รวย ตั้ง 22 ล้าน ในเวลาไม่กี่นาที
   ก่อนอื่น ก็ต้องบอกเลยว่า พออ่านข่าว ก็เล่นเอาชะ ตกใจ อือหือ เล่นกันขนาดนี้ เลยเหรอ หลายท่านอาจมองว่า เป็นการทรมานสัตว์ ผมก็คนหนึ่งละ ดูละคร และหนังไทย มาบางเรื่อง ก็เอาชะจินตนาการว่า ตัวไหนแพ้ โดนเอาไปต้มกิน  แต่ตามหลักแล้ว เนื้อไก่ชน ค่อยข้างหยาบ และไม่อร่อย และคนที่เลี้ยง คงรักเอ็นดูเหมือนเรารัก หมาแมว เป็นเช่นกันแน่  แต่ ข่าวที่ลง (ที่มาของข่าว)
http://news.mthai.com/hot-news/general-news/466058.html
ก็เล่นเอา อยากได้ไก่ตัวดีๆ สักตัว  แต่ความจริงแล้วการหาไก่ชนดี เรียกว่า เทพๆ นั้น คงยาก เพราะมีพี่ชาย เลีัยงนานนับหลายปี ก็ยังได้เอาไปชน ในระดับ ไม่กี่พัน กี่หมื่น  และเห็นความพากเพียรพยายาม ปลุกปั้นให้ไก่ชนตัวเอง นั้น ใช้เวลาเอาใจใส่ อาจจะมากกว่า คนในครอบครัวตัวเองชะด้วยซ้ำไป  ดังนั้น เห็นแล้วคงได้แต่อิจฉา เลยต้องเก็บข่าวไว้ เผื่อ ว่า พอมีอายุไป หันมาเลี้ยงไก่ชน ดังเช่นๆ หลายๆ คนเป็นเช่นกัน

ชาวสมุทรปราการแห่ชม ไก่ชนคู่หยุดโลก ชิงเงินเดิมพัน 22 ล้านบาท หลังไก่สายพันธุ์ดังไทย-พม่า โคจรมาเจอกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ (18 ต.ค. 58) ได้เกิดเรื่องสุดฮือฮาขึ้น ที่จ.สมุทรปราการ เมื่อประชาชนจำนวนมากต่างพากันเข้าไปชมการจัดแข่งขันกีฬาไก่ชนคู่หยุดโลก ที่สนามกีฬาไก่ชนเทิดไท สนามไก่ชนถูกกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ไก่ชน มณีแดง vs ปิ่นเพชร
มีภาพของช่อง 3 รายการพี่ สรยุทธ หรือป่าวนะ ดัง ไปเลย
โดยการแข่งขันไก่ชนดังกล่าวเป็นการพบกันระหว่าง “ปิ่นเพชร” ไก่สายพันธุ์พม่าง่อน สังกัดฟาร์มที่ประจวบฯ กับ “มณีแดง” ไก่สายพันธุ์ไทยดั้งเดิมจากสนามไก่ชนมุกดานานาชาติ ของอีสาน
ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นสุดยอดไก่ชน 2 ค่ายมาเจอกัน จึงทำให้มีเงินเดิมพันสูงที่สุดในประวัติการณ์ถึง 22 ล้านบาท ส่วนผลการแข่งขันปรากฏว่า มณีแดง เอาชนะ ปิ่นเพชร ต้นยกที่ 3 คว้าเงิน 22 ล้านบาทไปครองได้สำเร็จ
                                ไก่ชน ปิ่นเพชร vs มณีแดง อันนี้คงเป็น เงินเดิมพัน ปาดดดๆๆ

บอดี้การ์ด ไก่ชนหลักสิบล้าน

ขนาด ไก่ ก็ต้องจ้างบอดี้การ์ด คุ้ม คงประมาณ กลัวคนไปลูบขอหวย เป็นแน่แท้

คลิปไก่ชน ยกที่ 3 ชี้ผลแพ้ชนะ


ส่วนอันนี้คลิป บอตรง ดูไม่เป็น ว่าออก เข่า หมัด ศอก ยังไง เอาจริงๆ นะ ผมดู ตั้งนาน เห็นแค่ความทน


เอาเป็น่า การพนัน เป็นสิ่งที่ ไม่ค่อยดีเท่าไร ควร ใช้ การไตร่ตรองให้ดี การกีฬาที่ดี คือการเล่นด้วยน้ำใจและกฏกติกา ที่เท่าเที่ยม และ ที่สำคัญคือ ควรไม่มีการพนันมาเกี่ยวข้อง เพราะ หากการพนันเข้ามา ทุกอย่างของกฏและกติกา ที่สวยงาม ก็จะถูก มองข้ามไป เหลือไว้แค่ ความที่ต้องการชนะ อย่างเดียว


วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

บ่นไปเรื่อยๆ...
   วันนี้ เป็นอีกวัน...  ที่ขอบ่น แบบไร้สาระ  บังเอิญ ไปพบอะไร ขัดใจ ก็ อยากที่เล่า เพราะการเล่า นั้น ในความคิดส่วนตัว ผมว่า ดี มันระบาย ดั่งเขือนที่กักน้ำไว้  หากพบความรู้หรือ สมองเราจดจำแล้วเราก็มักจับจดหรือใส่ใจกับมันไว้ สักพัก หรือนาน และบางท่านบางคน ก็อาจ จำทั้งชีวิต ก็เป็นไปได้  เรื่องไร้สาระที่ว่า ก็ ปรากฎ ทางเฟสบุค นานแล้วละ  แต่ไม่ใช่ เฟส ของผมเอง แต่เป็นช่อง ข่าวสารที่ได้มาจากการแชร์ ของท่านอื่นๆ  จริง แล้ว ดาบสองคม เป็นคำกล่าวที่มอบให้กับสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในอีกด้าน ก็กลับมาปาดเนื้อมือ ของผู้ใช้หรือ เอาทั้งสองด้านไปใช้ในทางที่ผิด  การสื่อสารทุกวันนี้เปิดกว้าง มากมายที่ แล้วแต่คนที่จะรับ  แต่ผมว่า บางอย่างผู้ที่ส่งสาร ควรใช้ การไตร่ตรองถึง ความถูกต้อง บ้างก็ดี  ผมคนเขียนก็ใช่เป็นคนดี ที่สุด ในโลกนี้ แต่ ก็ยังมีความละอายในบางสิ่งที่เห็นว่าควร  ดั่งเช่นเรื่องที่ผมจะพูด คือการแชร์ ไปดูคลิปโป้ ทางเน็ต
   *** หมายเหตุ  ภาพประกอบ ภาพอาจไม่เกี่ยวกับบุคคลในรูป (หากเอาผิด เอาผิดคนโพสนะคับ ผมแปะเพื่อให้ดูว่า เขากำลังทำอะไร)
   ดูๆ ไปมันก็เป็นการแชร์ ธรรมดานี้ละคับ  แต่ผมว่า จะง่ายไปไหมสำหรับเด็ก ตัวผมผู้ใหญ่ จริงแล้วอารมณ์ด้านเพศ นั้นก็ย่อมมี ของคนปกติ แต่ ผมว่า จะหาพวกนี้ดู นั้น ควร ใช้ความสามารถเพิ่ม จากความเป็นผู้ใหญ่ ได้ไหม ไม่ต้องเอามาเสนอ ถึง บ้าน ยืน มีด มาให้เด็กได้ดู ด้วยการคลิก ครั้งเดียว เพราะจริงๆ แล้วถ้าเด็กมันจะดู มันก็หาเป็นแต่ดูแล้วว่า มันเป็นการโฆษณา มากกว่า การเอามาให้ดู ของพวกนี้ ...


วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เห็นแล้วก็ อด อยาก ที่จะคิดไม่ได้ว่า ความพอเพียง มันคือหนทางแห่งความสุข

"เห็นแล้วก็ อด อยาก ที่จะคิดไม่ได้ว่า ความพอเพียง มันคือหนทางแห่งความสุข"
วันนี้  6 ตุลาคม 2558  อ่านข่าว ก็ได้ไปเจอ  บทความสะดุด ต่อม ความไร้คู่ ของตัวเอง เข้าให้  การอยู่เป็นโสด ใช่ จะเป็นสิ่งที่เลวร้ายเสมอไป  โดยเฉพาะ ชายๆ แบบเรา ๆ การที่ไม่ต้องรับภาระ บางอย่างก็ถือเป็นการสบายตัวของเรา ได้เช่นกัน   แต่หากว่าความเหงานั้น มันก็แล้วบุคคล ทุกคนล้วนคงต้องเหงา แต่ ทางออกมีมากมาย  ในการดับกระหาย ของความเหงานั้นๆ เชื่อเถอะว่า มันไม่ได้อยู่กับเราเสมอไป หรอก  แค่เราไม่รับมันเข้ามา ความเหงา คงเข้ามาแค่ เวลา ที่คุณคิด  ว่าไปชะไกล จริง จะพูดถึง บ้าน หลังน้อย  ข้อมูลจาก mthai แบบบ้านเหมาะสำหรับ คนโสด แต่จริง แล้ว เหมาะกับ บ้านที่เป็นครอบครัวได้ แค่ ทำหลายๆ หลัง เพราะว่า บางทีหลังใหญ่ไป ก็ใช่ว่า จะดี เพราะบ้านหลังใหญ่ มักปล่อยพื้นที่ว่างๆ ให้ไม่เกิดประโยชน์ ให้เป็นที่ฝุ่นเกาะ  และแม่บ้าน ไทย ส่วนใหญ่ เป็นบุคคลประเภท ชอบซื้อ ทั้งๆ ที่ มีจนจะ ไม่มีที่เก็บ  ผมจำได้ บ้านพัก ของครอบครัวผมสมัยสองสามปีที่แล้ว ขนาดน่าจะสักราว  พื้นที่บ้าน น่าจะชัก 20Mx20M  สองชั่น ชั่นล่าง โล่ง  แต่ ไม่โล่ง เพราะเก็บของทุกอย่างที่ไม่ได้ใช่ ส่วนชั้นบน ก็เต็มไปด้วย ข้าวของ ตู้เสื้อผ้าประมาณ ราว 5-6 ตู้ ขนาดใหญ่ สรุป คือ หาพื้นที่แทบไม่ได้ และยังคงจะซื้อ ตู้ เพิ่มอีกเรื่อยๆ ว่าละก็ไปดูข้อมูล ละกัน บ่นมากไปชะแล้ว

ที่มา :  http://decor.mthai.com/home-design/12245.html

แบบบ้านเล็กๆ สำหรับคนโสด


บ้านหลังเล็กๆ สร้างง่ายๆ ราคาไม่แพง เหมาะกับวัยเริ่มต้นทำงานที่เพิ่งเริ่มใช้ชีวิตคนเดียว แต่มีความฝันอยากมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเอง วันนี้ Decor.Mthai จึงนำ แบบบ้านเล็กๆ ที่เหมาะสำหรับคนโสด มาเสนอเพื่อนๆ ค่ะ เราไปดูกันเลยว่าหน้าตาของบ้านหลังนี้จะเป็นยังไง

แบบบ้านเล็กๆ สำหรับคนโสด 



บ้านไม้พาเลทหลังนี้มีขนาด 17.64 ตารางเมตร กว้าง 2.4 เมตร ยาว 7.20 เป็นบ้านชั้นเดี่ยว
ภายในบ้านหลังน้อยหลังนี้
เปิดประตูเดินเข้ามาด้านซ้ายมือจะเป็นห้องครัว เดินตรงมาจะเป็นมุมทำงานมุมเล็กๆ
มุมห้องครัวมีเตาแก๊ส และชั้นวางของเล็กๆ ตั้งอยู่บริเวณห้องครัว
ห้องนอนตกแต่งให้เตียงนอนอยู่บนลิ้นชักวางของ เพื่อประหยัดพื้นที่ภายในบ้าน
บ้านหลังนี้เรียกได้ว่าเป็นบ้านหลังน้อยที่เปรียมไปด้วยคุณภาพจริงๆ ค่ะ ถึงจะเล็กแต่ก็คบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ถ้าเพื่อนๆ ชอบหล่ะก็ นำไอเดียดีๆ แบบนี้ไปใช้ดูนะคะ

ขอบคุณ : http://www.homedit.com  <--ที่มาจริงๆ ที่ mthai ไปเอามาอีกที

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2558

แปะ ข่าว ชาวบ้าน พาส 2 (ตอน 2 ไร้สาระ)

แปะ ข่าว ชาวบ้าน พาส 2 (ตอน 2 ไร้สาระ)
   ด้วยยุค ของการไร้พรมแดน และไร้สายกัน ในยุคของทุกๆ คนต่างมี คอมพิวเตอร์พกติดตัวกัน  เกือบทุกคน ในประเทศและในโลกนี้  เลยไร้การคัดกรองของข่าว  ที่แพร่กระจาย ออกมาให้เราๆ ท่านๆ นั้นได้อ่านกัน  จริงๆ ข่าว ไม่ได้ทำร้ายใครแต่ผู้เขียนต่างหากที่เป็นผู้ทำร้าย  คน สำหรับยุคนี้ คงต้องเรียกได้ว่า ต้องฟังหูไว้หู  คือการ อ่านแล้วต้องพิจารณาเอาเองว่า จะเชื่อหรือ จะ ใช่ หรือจะไม่ กันแน่ เพราะต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่ปรุงแต่งให้มีสีสัน น่าอ่านน่าติดตาม เหตุ คงเพราะการตลาด ของคนนั้นละ ข่าว จริงๆ อาจแทบไม่มีอะไร แต่ ก็เพิ่ม จนชะ จาก เขียนรูปหนู กลายเป็นสิงโต ไปเลย  วันนี้ขอยก ตัวอย่างอีกข่าว ที่อ่านมา  แล้วเกิดความตลก ขึ้นภายในใจ เลย ว่า เอามาให้หลายคนที่ค้นพบบทความนี้ ได้อ่านและได้ขำ หรือ หากบทความนี้ ถูกเก็บไปยัง อนาคต สัก 1000 ปี 10000 ปี ข้างหน้าลูกๆ หลานๆ ได้อ่านอาจคิดว่า คนสมัยเรา นี้ ฉลาดกันเพียงนี้เชียวเหรอ
ข่าวนั้นคือ  ที่มา จากเฟสบุค:

"ก็แค่สัมภเวสีของงูเขียวที่อวดอ้างตนว่าเป็นพญานาค"


ดู แล้วอ่านแล้ว สำหรับผมนั้น บอกได้คำเดียว ว่า เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง กับประเทศทางพุทธศานาที่เฟื้องฟู  กับคำสอน ของศาสดาผู้ซึ่ง สั่งสอน ศิษย์ ต่อรุ่นๆ มาให้กลายเป็นแค่คนที่ควรนับถือแต่ ทองเหลือง ผสม การขึ้นโคร่งรูปที่ดู สวยงาม กราบไหว้ บูชากัน  สิ่งที่เหลือของศาสนาจริงๆ แล้วคือคำสอนที่ถูกต้อง  ผมนั้นไม่ถนัดเรื่องศาสนาเท่าไหร่ แต่ก็ใช่ จะงมงาย จนแยกไม่ออก
   อย่างข่าวที่เห็น สิ่งที่แรกที่คิดได้คือ ในกระบวนการนี้ ใครคือ ควายตัวสุดท้ายที่โง่ ที่สุด ผมขอแยกแยะเป็นดังนี้
1.คนที่เชื่อ (เหล่าที่เราเห็นตามภาพ และคนที่อื่นที่คงเชื่อ)
2.คนที่ไม่เชื่อ (เหล่าๆ ท่านๆ ทั้งหลายรวมทั้งตัวผมเอง)
3.คนที่  เชื่อ แต่ ไม่แน่ใจ

เพราะ ข้อ 1 คนที่เชื่อ เขาอาจโง่ กว่าไหม หากเขาเชื่อเพราะ เขาพบประสบ กับตัวตนของเขา จะว่าเขาโง่ก็ไม่ได้ เพราะ คนเรา ได้เห็น บางสิ่งที่ต่างกัน หรือชอบที่จะเชื่อๆ ต่างกันออกไป  ไม่งั้นคนเราไม่ทะเลาะกัน หากมีความเชื่อ ที่ตรงกันหมด แต่หากเรื่องนี้เป็นจริงๆ ละ เขาก็กลายเป็นคนฉลาดที่สุดในสามกลุ่ม เพราะ มันดันเป็นจริง
ข้อ 2 คนที่ไม่เชื่อ เอาชะเลย  จะโง่ ไหม หากว่า เกิด สิ่งนี้ เป็นจริงขึ้นมา คนข้อนี้ โง่ และควายสุด เลยก็ว่าได้  แต่ถ้าไม่จริงละ เขาจะดูฉลาด คงฉลาด ที่ไม่เชื่อ
ข้อ 3 คนที่ไม่แน่ใจ เพราะบ้านเรานั้น ผูกผัน กับ เรื่องลึกลับ เรื่อง มนต์คาถา กันมาแต่กำเนิด เกิดก็ ตีเป็นยามดี บางคนใช้ ตัวเลขบางตัว กำหนดชะตาชีวิตตัวเองด้วยซ้ำ คนประเภทนี้คงไม่กล้าเข้าไปใกล้ หรืออยากเข้าไปแต่ก็กลัวๆ กล้า ที่จะเชื่อ

  แต่ยังไง ใครจะเชื่อหรือไม่นั้น สิ่งที่สำคัญ คืออย่าเปลืองตัว  หากสิ่งที่ท่านเชื่อ นั้นกลับมาเป็นภัย กับตัวเองและคนรอบข้าง ก็ควร เบาๆ ลดๆ การเชื่อ นั้นลง  เพราะความเชื่อบางอย่างก็เป็นกลอุบายที่แยบยลให้เราเป็นกฎเกณ การดำเนินชีวิตที่ดีขึ้นได้เช่นกัน แต่ อย่างที่ว่า 
 "ควรใช้เหตุผล ในการเชื่อ"



วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2558

แปะ ข่าว ชาวบ้าน !! 
                ทุกวันนี้ ทำไม คนเราชอบอะไร ที่หลอกลวง กันจริงๆ  พอดี วันนี้ ไปอ่านข่าว เจอ สองสาว นักร้องค่ายดัง จะ ควักนม ไฟว์ (สู้กัน)  ผมจริง ๆ ไม่ติดใจอะไรหรอก คือ นม ก็ นมน้องเขา ละ  แต่ ทำไมคน ติดตาม ดู และ ชมกันมากว่าด่า ผิดกะอี น้อง ขายของ ก็ว่าจะควักนม  อันนี้ น้องเขาไม่ไฟว์ กะใคร  แต่กลับเสียหาย โดนว่าชะมากกว่า ทั้งๆ ที่ ก็เอา นม มาขาย ให้มีข่าวเหมือนกัน เพราะอะไร  หรือ เพราะน้องเขาไม่ดัง เลยก็ควักจริง คนกลับมองว่า คนพูดความจริงนั้น เป็นสิ่งที่ ผิด  แต่กลับคนที่ออกข่าว ว่าจะควักไฟว์ ซึ่ง เราก็รู้ๆ กันอยู่ว่า คงไม่ควัก ถ้าภาษาบ้านๆ ผม ก็เรียกว่า จก ออกมาให้ดูแน่ คงได้แต่ มอง ตรงนั้นของน้องเขา แล้วจินตนาการเอาเอง ชะมากกว่า  กลับเป็นสิ่งที่สังคม มองเฉยๆ กับการหากิน กับวาทะ บางคำ ที่ส่อให้ช่วนคิด ผมคงเป็นประเภท ที่เข้าใจอะไร ได้ยาก กว่าคนทั่วไปเป็นแน่แท้  สรุป เลยถ้าน้องเขาควักจริง ผมก็จะไม่ว่าสักคำ ???



  เนี้ย ทั้งๆ ที่จริงๆ มันก็ขาย อันนั้นเพื่อให้คนสนใจ  อย่างน้อยๆ ก็ผมละคนหนึ่งที่ดู อันนั้นก่อน ดูอันนี้ 5555+ คิดเอา ว่าอันนั้น กะอันนี้ มันคืออะไร ต่อไปก็เป็น รายละเอียดข่าวที่เขาเขียนกัน แม้ เป็น ยุค แห่งความภูมิใจที่ ได้ ผ่า การขย้ำ ของหมอ  อันเราก็เสียดาย รู้แบบนี้ ตั้งใจเรียน เป็นหมอ ก็คงดี  จะได้มีอาชีพ ขย้ำหน้าอก นักร้องให้ บวมขึ้น

รายละเอียด ข่าว:
กระแต-จ๊ะ งัดนมไฝว้ ...ใบเตย จะมัวช้าอยู่ไย ข่าวบันเทิง : กระแต-จ๊ะ งัดนมไฝว้... ใบเตย จะมัวช้าอยู่ไย        มาถึงจุดนี้ได้อย่างไรสำหรับค่ายเพลงลูกทุ่งสุดแซบ อาร์สยาม ที่ปั้นนักร้องลูกทุ่งตัวแม่ออกมาประชันขันแข่งแย่งซีนกันเองระหว่าง ใบเตย-กระแต-จ๊ะ ที่แต่ละนางไล่บี้ไล่เบียดกันขึ้นแท่นเป็นเบอร์หนึ่ง ด้วยการลงทุนเฉียดล้าน โมหนังหน้า อัพเต้า ขัดสีฉวีวรรณ เรียกว่าทุ่มสุดตัวเพื่อหน้าที่การงาน โดยเฉพาะ 2 สาว กระแต-จ๊ะ ที่สร้างจุดขายให้ตัวเอง ด้วยการโกยนมโกยเต้ากับซิงเกิ้ลใหม่อย่าง ยิ่งถูกทิ้ง ยิ่งต้องสวย ที่สาวกระแตแดนซ์ลืมตาย ปล่อยซีนนมทะลักให้หนุ่มๆ ได้เสียวกันอยู่หลายซีน ส่วนสาวจ๊ะก็มาเต็มๆ สองตา กับสองเต้าใหญ่ๆ ที่ใช้โคตะระคุ้มกับการลงทุน ในซิงเกิ้ลแรงๆ อย่าง มีทองท่วมหัว ไม่มีผัวก็ได้          ก็มีแต่สาวสั้นเสมอหูอย่าง ใบเตย ที่ซิงเกิ้ลใหม่ ติดหนึบ ดันมาแนวสายแบ๊ว สายหวาน เลยไม่ค่อยจะติดหูคนฟังสักเท่าไหร่ แถมความแซบเซ็กซี่ของเธอก็ต้องพ่ายให้กับเต้าใหญ่ๆ ของ 2 สาวกระแต-จ๊ะ สงสัยคงจะถึงเวลาแล้วที่สาวใบเตยคงต้องไปพึ่งมีดหมอ อัพไซส์มาไฝว้กับสองคนนี้

ที่มาของข่าว http://gossipstar.mthai.com/gossip-content/52761

   ครั้งจะเปรียบเทียบกะ อีน้อง คนขายครีม หรือป่าว ผมไม่แน่ใจแต่ เอาเป็นว่า น้องเขาขายอะไรสักอย่างนี้  แต่ พอดี น้องเขา ก็มีแนวการโฆษณาที่ทำเอา คนแบบผม และหลายๆ คน ต้องหันดู จริงๆ แล้วการทำแบบนั้น ก็ถือว่าไม่ดีมากนักกับสังคม ของไทย (ต้องขอโทษที่ไม่มีภาพของน้องเขา หาไม่ทัน *จำที่เซฟ ไว้ไม่ได้)  แต่ จะว่าไป หากเทียบกับดารา และนักร้อง  แล้ว  มันต่างกันตรงไหน  แค่คุณ ๆใช้คำ กับ การแต่งตัวออกมาแบบนี้ คน แบบผมๆ อันนี้ คงจะไม่ใช่ผม เพียงคนเดียว หรอกที่ คิด หรือจินตนาการ ไปไกลกว่า หรือพอๆ กับที่น้อง ขายครีม นี้ กระทำไป  แค่น้องเขา ทำจริง ถอดจริง ต่างกับ นักร้อง หรือการโฆษณา อะไรแรง สอง สาม ทางของความคิด  แล้วก็ไปโดนเด็ก ต้องมีคำแนะนำเด็ก ก็ทำกันแบบนี้ จะไปโทษเด็กกันทำไม  คนที่ทำ ก็คนฉลาดๆ ทางความคิด กันอยู่แล้วนิ .... นะสังคมไทย

โดย: นายสากเสือก

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

สำหรับผู้รักในเสียงเพลง
    สวัสดีคับ เช้าที่ 1 ของเดือนตุลาคม ของปีที่ พ.ศ.2558  หลายท่านคงสงสัย บล็อคผม หัวเรื่องก็ กล่าวถึงการหาอาชีพ  จริงๆ บทความนี้ ก็จะกล่าว อาชีพ อีกแบบจริงๆ ก็คงเรียกเป็นงานอดิเรก บางอย่างของบางคนรวมทั้งของผมด้วย ด้วยตัวผมเอง ก็ใช่จะร้องเพลงเก่ง ผิดๆ เพี้ยน ตามประสา คนที่ไร้เสียงเทพ พรสวรรค์แต่กำเนิด และไร้การฝึก  แต่ คนเราก็อย่างว่าคับ ย่อมมีใจรักในด้านเสียงเพลงเช่นๆ กัน  ผมก็เลยได้ เข้ากลุ่ม เฟสบุค กลุ่มหนึ่ง เป็นกลุ่ม ผู้รักดนตรี  แต่ ไม่ใช่ ทางด้าน การแต่ง แต่เป็นการ  มิกซ์ หรือเรียกว่า กลุ่ม ชื่นชอบคาราโอเกะ  ส่วนเนื้อหา หรือความหมาย ของคาราโอเกะนั้น  ผมก็ได้ยิน มาแค่ว่ามาจาก พี่ยุ่น ของเรากันนี้ละ เป็นผู้กำเนิด  แต่บ้านๆ เรา ก็มีโปรแกรมเด่น สำหรับร้องคาราโอเกะ อยู่หลายเจ้า ทั้งฟรี และเสียเงิน  จากระดับ โปร ไปจนถึง พอให้เป็นคีย์ เพลงตรงพอทำให้ทวงทำนอง ของบทเพลงนั้นได้ขับกล่อมจิตใจของตน  แต่ผมก็จะกล่าวถึง อันที่ผมได้ เข้าไปศึกษา แต่ถามว่า เอามาเป็นการทำงานนั้นได้ไหม ก็พอได้นะคับ  ก็มีหลายครั้งที่ พี่ ๆ น้องๆ รวมทั้งเพื่อนหลายคน  นำมาให้ลง หรือทำการดัดแปลงโปรแกรม โดยส่วนตัว นั้นผม ไม่ได้ทำโปรเจคเหล่านี้นะคับ คงยกเคดิตให้ เหล่า ศิลปินดิจิตอล ผู้ที่ แปลงเสียง มิดี้ ธรรมดาให้กลายเป็น เสียงใกล้เคียงกับเครื่องดนตรีสด การทำนั้นถือว่า ก็ดี คับ ใกล้เคียง แต่ อย่างที่บอกคับ โปรแกรม  ก็คือโปรแกรม คนเล่นสด ก็คือคนเล่นสด คงไม่ถึง 100% แต่ก็เรียกได้ว่า  ไม่เลวร้าย จนรับไม่ได้  ในสวนตัวผมชอบ ว่างๆ ก็เอาไว้ร้องแหกปาก คนเดียว บ่อยๆ ได้เช่นกัน ท่านใดสนใจ ก็ลองเข้ากลุ่ม "SONAR & KARAOKE CLUB" ที่นี้ มีแจกฟรี และ ความรู้ให้ได้ศึกษา แต่ บางท่านก็อย่างว่า นะคับ ไม่อยากใช้ความจำส่วนที่ เหลือจำอะไรเพิ่ม หรือไม่จำเป็นต้องศึกษา ก็สามารถวาน ผู้ใจดี ในกลุ่ม ทำให้ ก็พอน่าจะได้  ถ้าสะดวกพอนะคับ
   พอพูดถึง แล้วก็ขอกล่าวถึง ตัวโปรแกรมเลยละกัน ผมนั้น ไม่ได้ชำนาญมาก เลยต้องขอกล่าวขอโทษหากให้ข้อมูลที่ผิดพลาดไปบ้าง  แต่ก็จะพยายาม คือ ไม่ผิดไปมากจนไม่สามารถเล่นโปรแกรม นั้นได้เลย
   หลักๆ ตัวที่ใช้กัน ของกลุ่มนั้นจะเป็น  extreme karaoke+Sonar+VST  เป็นหลัก ก็ไม่ขออธิบาย ขั้นตอนการลง  นะคับเพราะ บทความนี้ ไม่ได้เป็นการสอนแต่เป็นการแนะนำและ อาจมีคลิป ผลงานบางท่านเอามาให้ดูนิดหนอ่ย ทำไม ผมไม่อธิบาย ขั้นตอนการติดตั้ง เพราะ ความรู้ทั้งหมดมีคลิป  ที่สอนกันในกลุ่มอยู่แล้ว  ผมเลยขอพูดถึง โดยรวม น่าจะเป็นการดีกว่า
CR:Yootthana Wongmontree  (เป็นผู้ปรับแต่ง  แค่ตัวอย่างผู้ที่ศึกษา ไม่หวังกำไร)
นี้เป็นผลงาน ของ บางท่านในกลุ่ม ที่ ทำออกมา ทดสอบว่า ปรับแต่งกันไปถึงไหน  ก็อย่างว่า คับ ไม่มีอะไร สมบูรณ์ 100%  แต่ ก็ถือว่า ดีมากแล้ว  กับการเอาไว้ฝึกร้อง  ตนเอง  และยังมี อื่นๆ อีกมากมาย ทั้งสอนการลง การใช้ ส่วนใหญ่ หรือเรียกได้ว่าทั้งหมด ฟรี แต่ก็มีผู้แอบอ้าง เยอะเช่นกัน ท่านๆ ก็ควรระวัง  หรือบางท่าน สนใจ  แต่ไม่อยากยุ่งยากก็  อาจให้ค่าสินน้ำใจ กันก็ได้  นั้นก็แล้วแต่ แต่ ข้อมูล ค่อยข้างครบ หากจะฝึกทำเอง  ก็เป็นงานอดิเรก ได้เช่นกัน
   ส่วนจะทำเป็นอาชีพ  นั้นคง แล้วแต่ท่าน พิจารณา เอา เพราะ ส่วนใหญ่แล้วเพลง หรือแม้แต่โปรแกรมก็ล้วนมีสิทธิ์ทางปัญญา ของ เขาเองอยู่แล้ว  แต่ก็สามารถทำได้   ในระดับหนึ่ง เมื่อท่านต้องการต่อยอดเพิ่มเติม

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

10 แบบบ้านชั้นเดียว แบบบ้านสวยๆ พร้อมราคาก่อสร้าง

       นั้น ไง  ผ่านไปแค่  1 วัน ลิ้งหาย  ตกใจหมด  กะ ไว้ว่าจะเก็บข้อมูลไว้ แต่ไม่รู้หายเร็วไป เจออะไรคงต้องรีบ พอดี ไปเจอ ข้อมูล แบบบ้าน ถ้าพูดถึงบ้าน แล้วหลายๆ คน คงมีความฝันที่จะสร้างบ้าน ตามแบบที่ตนชอบ ส่วนตัวผม ก็มีเช่นกัน  ผมชอบ ในแบบที่ ไม่ต้องเยอะ ใหญ่โต แต่พอ ตัวเองอยู่ เหตุผลเพราะการทำความสะอาด นั้นละ เรียกได้กว่า รักสะอาดแต่ชอบสกปรก ก็ว่าได้  เครดิส ข้อมูล มาจากเว็บ mthai
ผมดูละ ทำให้อยากมีบ้าน สักหลังทีเดียว แต่ปัญหาส่วนใหญ่ แล้วตาม บ้านผม (บ้านนอก คอกนา) ปัญหาการหาช่าง ทำบ้าน ก็ลำบากชะทีเดียว  แบบ ก็ไม่ค่อยจะมีกัน ก็ตามๆ ฝีมือของช่างที่จบจาก กทม. หลักสูตร จากการสร้างบ้านจัดสรรไม่มีแบบแปลนอะไร ครั้นพอจะจ้างก็กลัว คำเดียวคือคำว่า "แพง" แต่มีแบบบ้านอย่างนี้ก็ดี คงบอกช่างได้เพิ่มขึ้น ว่าความต้องการเราคืออะไร ผมนั้นคงอีกนาน กว่าจะมีเงินสร้างบ้าน แต่กะนั้นละ มีข้อมูลไว้ เป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง หา มันก็คงจะดี
  "เอาเป็นว่า นกน้อย ทำรัง แค่พอตัว นั้นเป็นความสุข"

CR:http://decor.mthai.com/home-design/19938.html
มาใหม่แล้วค่ะ!! แจกฟรี แบบบ้านสวยๆ แบบบ้านชั้นเดียว พร้อมราคาก่อสร้าง จากสำนักการโยธา เหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังคิดอยากจะสร้างบ้านสักหลังเป็นของตัวเอง มีแบบบ้านที่น่าสนใจมากมายเลยคะ ราคาก็เริ่มต้นตั้งแต่ 5 แสนบาทขึ้นไป ……

10 แบบบ้านชั้นเดียว แบบบ้านสวยๆ พร้อมราคาก่อสร้าง

แบบบ้านแจกฟรี แบบบ้านเพื่อประชาชน จากสำนักการโยธา เป็นแบบบ้านที่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม และสามารถนำไปสร้างจริงได้ โดยถือว่าเป็นแบบบ้านที่ได้รับอนุญาติจากสำนักการโยธาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรามาดูภาพบ้านแต่ละแบบกันดีกว่าคะ

1. แบบบ้านดาวลดา

บ้านดาวลดา : เป็นบ้านชั้นเดียว 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 147.5 ตร.ม. ขนาดที่ดินอย่างน้อย กว้าง 12.60 ม. ลึก 21.00 ม. ราคาก่อสร้างประมาณ 1,253,750 บาท


2. แบบบ้านกวักโพธิ์เงิน
แบบบ้านกวักโพธิ์เงิน : บ้าน 1 ชั้น 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 56 ตร.ม. ขนาดพื้นที่ดินอย่างน้อยกว้าง 9.50 ม. ลึก 13.50 ม. ราคาก่อสร้างประมาณ 476,000 บาท

3. แบบบ้านข้าหลวง



แบบบ้านข้าหลวง : บ้าน 1 ชั้น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 82.6 ตร.ม. ขนาดที่ดินอย่างน้อยกว้าง 12.00 ม. ลึก 14.50 ม.ราคาก่อสร้างประมาณ 702,100 บาท

4. แบบบ้านคนทีสอ


แบบบ้านคนทีสอ : บ้าน 1 ชั้น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 89 ตร.ม. ขนาดที่ดินอย่างน้องกว้าง 13.80 ม. ลึก 13.00 ม.ราคาก่อสร้างประมาณ 756,500 บาท

5. แบบบ้านจงกลนี






แบบบ้านจงกลนี : บ้าน 1 ชั้น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 92 ตร.ม. ขนาดพื้นที่ดินอย่างน้อย กว้าง 12.00 ม. ลึก 14.00 ม. ราคาก่อสร้างประมาณ 782,000 บาท

6. แบบบ้านไชยมงคล

แบบบ้านไชยมงคล : บ้าน 1 ชั้น 1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 144 ตร.ม. ขนาดที่ดินอย่างน้อย กว้าง 16.50 ม. ลึก 18.50 ม. ราคาก่อสร้างประมาณ 1,224,000 บาท

7. แบบบ้านกัลปพฤกษ์

แบบบ้านกัลปพฤกษ์ : บ้าน 1 ชั้น 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 60 ตร.ม. ขนาดที่ดินอย่างน้อยกว้าง 8.00 ม. ลึก 15.40 ม.ราคาก่อสร้างประมาณ 510,000 บาท

8. แบบบ้านกาซะลอง


แบบบ้านกาซะลอง : บ้าน 1 ชั้น 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 70 ตร.ม. ขนาดที่ดินอย่างน้อยกว้าง 10.50 ม. ลึก 11.50 ม.ราคาก่อสร้างประมาณ 595,000 บาท

9. แบบบ้านชายผ้าสีดา

แบบบ้านชายผ้าสีดา : บ้าน 1 ชั้น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 120 ตร.ม. ขนาดที่ดินอย่างน้อย กว้าง 12.00 ม. ลึก 18.00 ม. ราคาก่อสร้างประมาณ 1,020,000 บาท

10. แบบบ้านดาวลดา


แบบบ้านดาวลดา : บ้าน 1 ชั้น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 147.50 ตร.ม. ขนาดที่ดินอย่างน้อยกว้าง 12.60 ลึก 21.00 ม. ราคาก่อสร้างประมาณ 1,253,750 บาท
เป็นไง  ห็นแบบบ้านชั้นเดียวกันไปแล้ว ถ้าเพื่อนๆ ชอบหลังไหนก็สามารถนำรูปแบบบ้าน ไปติดต่อขอแบบบ้านได้ที่สำนักงานเขตทุกเขตได้เลยนะคะ
ขอบคุณแบบบ้านดีๆ จาก : สำนักการโยธา ( www.bangkok.go.th )
* แต่รู้สึกว่า แบบที่ 1 กับ 10 จะอันเดียวกันนะคับ  555+ อันนี้ ข้อมูล มาแบบนี้ก็เลย ตามเลย จริง คงแค่ 9 แบบ แต่ไง ก็ เอาไว้เป็นกำลังใจให้กับคนสู้ มานะ เพื่อ บางสิ่ง
หมูปิ้ง ร้อน!! ๆ 
  พูดถึง  หมูปิ้ง  ก็ทำให้นึกถึง อาหารง่ายๆ ที่ อร่อย กินกับข้าวเหนียว ร้อน  ขอบอกว่า สุดยอด กว่าอาหารใดๆ  อาจเพราะว่าผม ก็ยังไม่เคย กินอะไรแพงๆ ระดับ หลายหมื่น ต่ออาหาร ไม่กี่ชิ้น ผมก็บ้านๆ ที่ชอบกินอาหารตาม ท้องตลาดสดทั่วไป  คงเรียกได้ว่า ชาตินี้ จะมีโอกาส ได้ ชิม อาหารระดับ จานละหมื่นแสน หรือไม่ อะ ก็โม้ ไปชะไกล กลับมาเรื่องหมูปิ้ง กับข้าวเหนียวร้อนๆ กันดีกว่า  ด้วย วันหนึ่ง เห็นข่าว ว่า แค่การขายหมูปิ้ง ก็ทำให้ใครบางคนรวยระดับ มหา รวย กันไปแล้ว  แต่ทำไม คนขายก็เยอะ แถวบ้านผม เรียกได้ว่า ไม้หมูปิ้งจะทิ้ม ตากันก็ว่าได้ จริงๆ แล้ว ผม ก็ยังไม่ลอง หมูปิ้ง หลายๆ เจ้า ทั่วประเทศได้ คง ชิม เท่าที่ ทำได้ ส่วนการหา แนวทาง การทำคง ดู จากเว็บ ชาวบ้านที่เขาทำกัน  หลายๆ เจ้ามาลอง ปิ้งเอง ดูว่า อันไหนอร่อย แต่ ก็อร่อย ผม อาจไม่ถูกปากคนทั่วไป โดยส่วนตัวแล้วผม ไม่นิยม ออกรสหวาน ชะเท่าไร แต่ชอบความหอม กลิ่น ของ การย่าง  และ ให้เนื้อ ออก แนวเค็ม นิดๆ กินกับข้าวเหนียวร้อน คงอร่อย สุด
ปะ ช้าอยู่ ไย หาสูตร กันละ อันนี้ ก็ จาก บล๊อค แต่เขาก็รวมๆ มาจาก บล๊อคคนอื่นอีก ผมก็ขอ ละกัน ผมกะเอามา ทำของผม กลัว พอ จะหาจริง สูตรหาย  ลำบากแย่

สูตรแรก 
ที่มา http://moooping.blogspot.com/2013/01/111.html  
แต่ก็ไม่รู้ท่าน เอาต่อมาจากใครนะ 555+ เอาเป็นว่า ไม่ซ้ำกัน ก็พอ

      สูตรที่หนึ่ง หมูปิ้งปะทะนมสด รสกลมกล่อม     


เครื่องปรุง
เนื้อหมู เอาติดมันก็ได้ หรือ เนื้อสันก็ดี 1 กิโลกรัม
ซีอิ้วดำ 1/2-1 ชต.
นมข้นจืด 3-4 ชต. หรือนมสด 1 ถ้วย
น้ำตาลปิ้บ 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายนิดหน่อย
น้ำมันหอย นิดหน่อย
ซีอิ้วขาวเห็ดหอม 2-3 ชต
กระเทียม รากผักชี พริกไทย 2 ชต.
น้ำมันมะกอก 2-3 ชต.
(ชต หมายถึง ช้อนโต๊ะ)

ผสมกันเสร็จชิมดูก่อนว่ารสออกมาแบบไหน ถ้าชอบหวานชอบเค็มก็เต็มเพิ่มลงไป

วิธีทำ

ล้างหมูให้สะอาดแล้วแล่อย่าบางมาก แล้วนำไปคลุกเคล้ากับส่วนผสมแล้ว นำไปแช่ในตู้เย็นสัก 1-2 วัน ค่อยนำออกมาเสียบไม้ปิ้ง  หรือ
เจ้าของสูตรเดิมเขาเสียบไม้ไว้เลยแล้วแช่ฟิต 3 วัน ค่อยเอาออกมาปิ้ง แช่ฟิตจะทำให้หมูนุ่มมาก ๆ ครับ

ตอน ปิ้งหมู น้ำปรุงที่เหลืออย่าทิ้งให้นำน้ำกะทิมาผสม ขณะที่กำลังปิ้งก็ใช้น้ำปรุงนี้ทาลงไปที่หมูกำลังปิ้งเพื่อให้หยดลงไปถ่าน กำลังร้อน ๆ จะได้มีควันหอม ๆ รมหมูด้วย
เก็บตกมาให้ครับ
- ถ้าจะให้สุดยอดยิ่งขึ้นควรจะใส่ซอสหอยนางรมไปบ้างเล็กน้อย ควรใช้ซอสหอยอย่างราคาไม่แพงเพราะว่ามีแป้งผสมอยู่บ้างแล้ว เหยาะผงกระหรี่พอเห็นด้วยหางตา เวลาปิ้งควรพรมน้ำหมักไปด้วยเล็กน้อยจะทำให้เกิดควันและกลิ่นซึ่งเป็นหัวใจ ของการขาย แต่อย่าให้ถึงขนาดมองหน้ากันไม่รู้เรื่อง ปิ้งกะว่าเกือบสุก เมื่อมีลูกค้าจีงค่อยปิ้งตอนจบ จะทำให้หมูปิ้งของคุณไม่แห้ง อวบอูมอิ่มเอิบน่ารับประทาน ใส่ถุงพลาสติกมัดให้แน่น ย้ำลูกค้าว่าอย่าเปิดจนกว่าจะทาน

- โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย ( 3 อย่างนี้อย่าขี้เหนียวนะเพราะจะทำให้หอมมากครับ) หมักทิ้งไว้ไม่น้อยกว่า 2 ชม.เพื่อให้เครื่องปรุงซึมเข้าถึงเนื้อ แต่ถ้าคุณต้องการทำขายควรหมักทิ้งไว้ข้ามคืน

- ปกติจะหมักหมูที่หั่นแล้ว การหั่นมีหั่นสองแบบ แบบแรกคือใช้หมูสันนอกเนื้อจะแข็งไม่มีมัน แล่เป็นแผ่นเลยกับอีกแบบคือ ใช้หมูสันใน เนื้อจะแดงๆ ไม่เป็นแผ่นๆ มันแทรกนิดหน่อย หั่นชิ้นเล็กๆ ยาวๆ ไม่ต้องหนา

- เวลาหั่นเลือกหั่นตามขวาง ลายเส้นของหมู จะกัดง่ายขึ้น เวลาซื้อนี่เลือกติดมันหน่อยหนึ่ง

- การทำให้หมูนุ่มหลัก ๆ มีสี่สูตรครับ คือ

๑. สูตรหมูนุ่มสูตรแรก ใส้แป้งมันหมักกะหมู ผลที่ได้ จะได้เนื้อนุ่มแบบ ดึ๊ง ๆ เหมือน หมู ใน ราดหน้า ร้านดัง ๆ

๒. สูตรที่สอง หมักหมู กะ มะละกอดิบครับ ขยำ ๆ ทิ้งไว้ สองชั่วโมง นิด ๆ เนื้อหมูที่ได้ จะ นุ่ม แบบ ยวบ ๆ ประมาณว่าแค่เอามีดลูบ ๆ ก้อขาด (อย่าหมักนานมากนะ เดี่ยว จะเละซะก่อน)

๓.สูตรหมูนุ่มสูตรสาม คือ ใส่ Baking Soda แต่แหวะ ไม่อร่อยเท่าไหร่ มันจะนุ่มแบบไม่นุ่ม (งงปะ) แต่ตลาดทั่วไปชอบใช้สูตรนี้ เพราะมันประหยัดต้นทุนครับ

๔. สูตรหมูนุ่มสูตรสี่ คือ ขยำมะม่วงหวานลงไป ในขั้นตอนสุดท้ายอย่ามาก แค่เอาสีกับกลิ่น สูตรนี้จะทำให้หมูของคุณแดงแบบส้ม ๆ ไม่เหมือนใช้มะละกอ และจะออกหวาน ๆ มัน ๆ แทนกลิ่นซี้อิ๊ว แต่ผมว่าแรก ๆ จะอร่อยนะ แต่นาน ๆ ไปมันจะไม่อร่อย เพราะมันจะติดลิ้นว่าหวาน แต่สูตรนี้กินกับน้ำจิ้มแจ่วอร่อยเหาะไปเลยครับ เพราะมันจะไปตัดกับเค็มของน้ำจิ้มแจ่ว ออกหวานแบบอร่อย ๆ

สุดท้าย ท้ายสุด
     เนื้อ หมูที่ใช้ ควรเป็นเนื้อสันส่วนขาหลัง ติดมันนิดหน่อย ถ้าเนื้อหมูที่ซื้อมาติดมันมากเกินไปก็ให้แล่เอามันออกทิ้งไปบ้าง เวลาแล่เนื้อหมูก็ต้องพยายามแล่ให้ได้ขนาดเสมอกันเพื่อความสวยงาม เวลาเสียบก็ต้องเสียบเนื้อหมูตามขวาง เนื้อหมูจะได้ดูหนา เวลากินจะไม่เหนียว และที่สำคัญจะต้องหมักหมูทิ้งไว้ในช่องฟรีซสัก 2 -3 วันถึงจะดี เวลาจะนำมาปิ้งก็เอาออกมาจากช่องฟรีซ แล้วทิ้งให้น้ำแข็งละลายก่อน เครื่องจะเข้าเนื้อและนุ่ม ถ้าหมักแล้วย่างเลยจะไม่อร่อย เวลาปิ้งจะไม่สวย เนื้อหมูก็จะติดตะแกรงด้วย


คอนโดไข่มดแดง อาชีพเกษตร เพาะรายได้สุดงาม บังคับออกนอกฤดู

เกษตรกรแนวใหม่ ใช้ปรัชญาท้องถิ่น เพาะรายได้สุดงามจากการทำไข่มดแดงคอนโด บังคับออกนอกฤดู 
ไข่มดแดง นับเป็นของป่าที่มูลค่า และหากินได้ยากมาก เนื่องจากจำนวนการออกผลผลิตมีได้เพียงปีละครั้ง ทำให้มีราคาและเป็นที่ต้องการของตลาด แต่คงไม่ใช่ในปัจจุบัน เพราะได้มีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยที่หันมาเลี้ยงไข่มดแดงคอนโด และบังคับให้ออกไข่นอกฤดูกาล จนกลายเป็น 1 อาชีพที่เสริมรายได้ให้คนไทยจำนวนไม่น้อย

วันนี้ MThai News และเพจเฟสบุ๊ก “เกษตรก้าวหน้า” จะพาไปรู้จักความรู้การทำคอนโดไข่มดแดง จากแนวคิดและภูมิปัญญาของ “พ่อครูสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์” ปราชญ์แห่งสวนป่ามหาชีวาลัยอีสาน ที่ได้ระบุว่า ภูมิปัญดังกล่าวเกิดจากการสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ โดยเฉพาะมดแดงที่บางครั้งมักจะทำรังในขวดพลาสติก หรือท่อพีวีซี ซึ่งจากการสังเกตนี้เองจึงทำให้เกิดแนวคิดการเลี้ยงไข่มดแดงคอนโดขึ้นมา
การทำคอนโดไข่มดแดงสามารถทำได้หลายวิธี แต่ที่นิยมทำกันคือการนำขวดพลาสติกมาเจาะรูด้านข้างหรือตัดขวดตามแนวขวางประมาณ 1/4 บริเวณส่วนหัวขวด แล้วจึงนำส่วนที่ตัดแล้วสอดกลับเข้าไปในตัวขวด โดยให้ปากขวดหงายขึ้น (ดังภาพ) บริเวณก้นขวดให้เจาะรูเพื่อทำเป็นที่แขวนผูกติดกับต้นไม้
จากนั้นก็ล่อให้มดแดงเข้ามาอยู่ในคอนโดนั้น โดยใช้เหยื่อจำพวกแมลงอบแห้ง (อบด้วยแสงแดด) เช่น จิ้งหรีด แมงเม่า แมงจินูน เป็นต้น ใส่ลงไปในรังเทียม หากเป็นแมลงตัวใหญ่ใช้ประมาณ 5-6 ตัว แต่หากเป็นแมลงตัวเล็กจะต้องใส่จำนวนมากหน่อยประมาณ 15-20 ตัว

ซึ่งการจะได้ผลดีต้องสังเกตด้วยว่าต้นไม้นั้นมีมดแดงรังใหญ่อยู่มากขนาดไหน เพราะส่วนใหญ่มดแดงที่จะคาบไข่มาไว้ในรังเทียม จะเป็นมดแดงที่มีรังขนาดใหญ่ ๆ มีประชากรเยอะ ๆ และหากรังเทียมไหนมีมดแดงเยอะก็ไม่ควรเติมเหยื่อเพิ่ม แต่ควรดูแลอย่าให้รังมดถูกรบกวนไม่อย่างนั้นมดแดงอาจจะขนไข่ย้ายหนีไปได้
การทำคอนโดไข่มดแดงให้ประสบความสำเร็จ ต้องทำควบคู่กับการเลี้ยงมดแดง ซึ่งจะต้องให้อาหารจำพวกแมลงอบแห้ง และน้ำผสมน้ำหวาน โดยข้อดีของการทำคอนโดมดแดงคือ การลดการทำลายรังและประชากรของมดแดง อีกทั้งหากเลี้ยงในเชิงพาณิชย์จะช่วยให้ผู้เลี้ยงเก็บไข่มดแดงได้สะดวกสบายขึ้น เราสามารถเลือกเก็บไข่มดแดงได้ และทำให้ทราบถึงปริมาณไข่มดแดงที่จะเก็บขายได้ พ่อครูสุทธินันท์ ระบุ

ด้านคุณไพรัตน์ ชื่นศรี ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านแสงจันทร์ หมู่ที่ 7 ตำบลสนามชัย อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาเปิดเผยถึงเทคนิคการเลี้ยงมดแดงให้ออกไข่นอกฤดู ว่า
หากฝนไม่ตกให้ทำการฉีดน้ำใส่ใบหรือฉีดใส่ต้นไม้ในช่วงเย็นๆ เดือนละ 1-2 ครั้ง ในช่วงฤดูหนาวและร้อน มดแดงก็จะเพิ่มจำนวนได้มากขึ้น หรือให้ติดสปริงเกอร์ ตลอดแนวราวเลี้ยงมดแดง เพื่อฉีดน้ำในช่วงที่ฝนไม่ตกหรือฤดูร้อนเพื่อหลอกว่าเป็นช่วงฤดูฝน โดยที่ในช่วงเดือนมีนาคม เริ่มให้น้ำโดยการใช้น้ำฉีดจากสายยางหรือสปริงเกอร์ที่ติดตั้งไว้
จากนั้นให้อาหารตามปกติ ประมาณอีก 1 เดือน เริ่มมีไข่สามารถเก็บจำหน่ายได้ วิธีการสังเกตว่ามดแดงรังไหนสามารถเก็บได้คือ ให้ดูจากรังว่าใหญ่หรือไม่ หรืออีกวิธีหนึ่งคือ ให้สังเกตว่าที่รังมดแดงเป็นฝ้าหรือไม่ ถ้าเป็นฝ้าสีขาวขึ้นตามขอบรังแสดงว่าเก็บมดแดงได้แล้ว

สำหรับขั้นตอนวิธีการทำ สามารถทำได้โดยง่าย ดังนี้
1. สังเกตดูบริเวณป่าที่จะเลี้ยงมดแดงจะต้องมีต้นไม้อย่างน้อย 5-10 ต้น เป็นไม้ผล หรือไม้พื้นเมืองก็ได้ มดแดงจะชอบอยู่ อาศัยพื้นที่ป่า และพื้นที่ที่มีต้นไม้ใบอ่อน
2. ตัดขวดน้ำพลาสติก โดยแบ่งครึ่ง 2 ส่วน ล้างน้ำให้สะอาด นำมาเจาะรู 2 รู เพื่อทำการผูกลวดใส่กับต้นไม้
3. ส่วนที่มีฝาขวดใช้ใส่อาหารเพราะถ้ามีน้ำขังสามารถเปิดฝาให้น้ำระบายออกได้
4. ส่วนที่เป็นก้นขวดให้ใส่น้ำ และนำกิ่งไม้ใช้เชือกผูกกับต้นไม้เป็นทางลงโดยหย่อนพาดลงในขวดที่ตัดใส่น้ำและอาหาร
5. ขึงเชือกโดยผูกติดกับต้นไม้และผูกโยงเชือกระหว่างต้นไม้เป็นถนนเส้น ทางเดินไปมาของมดระหว่างต้นไม้
6. การเลี้ยงหลังจากจัดเตรียมเส้นทางและเลือกต้นไม้ไว้แล้ว ให้ไปหารังมดแดง นอกพื้นที่ไกล ๆ ยิ่งดี เพื่อไม่ให้เกิดเลือดชิดเพราะถ้าเลือดชิดจะทำให้การเกิดไข่น้อย
7. หลังจากที่เลือกรังมดแดงได้แล้ว ให้ทำการตัดรังมดแดงใส่ในถุงปุ๋ยรังละถุง
และ 8. นำรังมดแดงที่ตัดมาได้เอาปล่อยในตอนเย็น โดยมัดถุงปุ๋ยที่ใส่มดแดงไว้กับต้นไม้ ตอนเช้าค่อยให้น้ำและอาหารที่เตรียมไว้ในขวดน้ำอัดลมที่มัดติดต้นไม้ มดแดงก็จะไต่ออกมาและสร้างรังใหม่เอง


กล่าวสวัสดี  กับ การตั้งใจทำบล็อก แรกแบบ ใส่ความตั้งใจ
      ด้วยเกิดความคิด ว่า ถ้ามีเงินทุนสักก้อน นั้น จะทำอะไรดี  แต่เพราะ ณ. เวลานี้ ยังไม่มี  เลย แต่ หวังว่า ภายหน้า อนาคตอีกไม่ไกล เกินไป ก็น่าจะ มีเหลือจากการเก็บเล็กน้อย จากการตั้งใจทำงาน  สะสม จนก่อสร้างเป็นเงินทุน แต่ กะนั้น  ก็เกิดความคิดว่า หากถึงวันนั้น แล้ว เราจะทำอะไร จะไปคิดตอนนั้น อาจจะตัดสินใจผิด ในการลงทุน กับเงินที่เก็บมา  ก็เลย ลองหาแนวทางต่างๆ รวมทั้ง อาชีพ และการทำอาชีพต่างๆ เก็บไว้ เผื่อที่จะ ได้ทำในภายหน้า เมื่อมีโอกาส


ครั้นพอ แว็บไปดูตามเว็บ ทำมาหากินต่างๆ รวมทั้งหนังสือ และ บล็อก ของคนอื่นๆ ก็ทำให้คิดว่า บางอย่าง หาเราศึกษาไว้ก่อน  อาจพบสิ่งที่เรา ทำได้ดี กว่า การคิดในระยะเวลาสั้นๆ  เพราะว่า พอมีเงิน ก็คงร้อนในมือ ที่จะเก็บเอาไว้  คง ไม่หาทางใช้ ก็คงหาทางลงทุน  แต่ด้วยเพราะ ตัวผมนั้น ไม่ได้จบ มาทางการตลาดหรือ รู้เรื่องเกี่ยวกับการทำมาหากิน อะไรเอาชะเลย  ดังนั้นคงต้องเริ่มศึกษากันตั้งแต่เนินๆ ไว้   หากมีท่านใด เป็นดังผม ก็ลอง หาแนวทางจากที่ผมได้รวบรวมไว้ เพื่อท่านจะได้เจอ เหมือนผม